ชุดคลัทช์ มีส่วนสำคัญในการส่งผลต่อการเพิ่มแรงม้าให้กับรถยนต์
ชุดคลัทช์ สามารถช่วยเพิ่มแรงม้าให้กับเครื่องยนต์ได้จริงหรือ
คำตอบก็คือได้ต้องเป็นการอัพเกรด ชุดคลัทช์ ให้เป็นแบบที่มีแรงกดสูง (High Performance Clutch) โดยชุดคลัทช์แบบแรงกดสูงจะมีแผ่นคลัทช์ที่หนากว่าและแผ่นกดคลัทช์ที่แข็งแรงกว่าชุดคลัทช์มาตรฐาน ส่งผลให้แผ่นคลัทช์สามารถถ่ายเทกำลังจากเครื่องยนต์ไปยังระบบส่งกำลังได้มากขึ้น ทำให้เครื่องยนต์สามารถส่งกำลังไปยังล้อได้อย่างเต็มที่และส่งผลให้รถมีแรงม้าเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ชุดคลัทช์แบบแรงกดสูงยังมีแผ่นคลัทช์ที่ทนทานต่อการสึกหรอมากกว่าชุดคลัทช์มาตรฐาน ทำให้สามารถใช้งานหนักได้โดยไม่เกิดอาการลื่นหรือดัง อย่างไรก็ตาม การอัพเกรดชุดคลัทช์ให้เป็นแบบแรงกดสูงก็มีข้อเสียอยู่บ้าง คือ คลัทช์จะหนักและต้องใช้แรงเหยียบมากขึ้น ทำให้ผู้ขับขี่ต้องออกแรงเหยียบคลัทช์มากกว่าเดิม นอกจากการอัพเกรดชุดคลัทช์แล้ว ยังมีวิธีอื่นๆ ที่สามารถเพิ่มแรงม้าให้กับเครื่องยนต์ได้ เช่น การเพิ่มเทอร์โบชาร์จหรือซุปเปอร์ชาร์จให้กับเครื่องยนต์ การปรับแต่งเครื่องยนต์ให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และการลดน้ำหนักของรถ เป็นต้น
หน้าที่ในการทำงานของชุดคลัทช์ที่มีในรถยนต์
ชุดคลัทช์ในรถยนต์มีหน้าที่หลักในการตัดต่อกำลังระหว่างเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง โดยอาศัยความฝืดระหว่างแผ่นคลัทช์กับแผ่นกดคลัทช์ และล้อช่วยแรงหรือฟลายวีล (Fly Wheel) เมื่อผู้ขับขี่เหยียบแป้นคลัทช์ จะทำให้สายคลัทช์หรือไฮดรอลิกดแผ่นกดคลัทช์ให้ห่างออกจากล้อช่วยแรง ส่งผลให้แผ่นคลัทช์หลุดออกจากล้อช่วยแรงและระบบส่งกำลัง ในกรณีนี้ เครื่องยนต์จะตัดขาดจากระบบส่งกำลัง ทำให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างราบรื่น เมื่อผู้ขับขี่ปล่อยแป้นคลัทช์ จะทำให้แผ่นกดคลัทช์กดแผ่นคลัทช์ให้แนบกับล้อช่วยแรงอีกครั้ง ส่งผลให้เครื่องยนต์เชื่อมต่อกับระบบส่งกำลัง ทำให้รถสามารถเคลื่อนที่ได้
นอกจากนี้ ชุดคลัทช์ยังมีหน้าที่อื่นๆ ดังนี้
- ช่วยป้องกันเครื่องยนต์จากการเสียหายจากการเปลี่ยนเกียร์กะทันหัน
- ช่วยป้องกันระบบส่งกำลังจากการเสียหายจากการเร่งเครื่องหรือเบรกอย่างรุนแรง
- ช่วยดูดซับแรงกระแทกระหว่างเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง
วิธีการดูแลรักษาชุดคลัทช์ให้สามารถใช้งานได้นานมากขึ้น
วิธีการดูแลรักษาชุดคลัทช์ให้สามารถใช้งานได้นานมากขึ้น มีดังนี้
- หลีกเลี่ยงการเลี้ยงคลัทช์หรือแช่คลัทช์ อาการเลี้ยงคลัทช์หรือแช่คลัทช์ หมายถึง การเหยียบคลัทช์ค้างไว้เป็นเวลานาน พฤติกรรมนี้จะทำให้ชุดคลัทช์สึกหรอเร็วขึ้น
- ไม่ควรเหยียบคลัทช์โดยไม่จำเป็น การเหยียบคลัทช์โดยไม่จำเป็น หมายถึง การเหยียบคลัทช์เพื่อรอสัญญาณไฟจราจรหรือรอให้รถเคลื่อนที่ พฤติกรรมนี้จะทำให้ชุดคลัทช์สึกหรอเร็วขึ้น
- ไม่ควรพักเท้าที่คลัทช์ การพักเท้าที่คลัทช์ จะทำให้ชุดคลัทช์ทำงานอยู่ตลอดเวลา ส่งผลให้ชุดคลัทช์สึกหรอเร็วขึ้น
- ไม่ควรทำคลัทช์ไหม้ คลัทช์ไหม้ หมายถึง การที่แผ่นคลัทช์สัมผัสกับความร้อนสูงจนเกิดความเสียหาย พฤติกรรมนี้อาจเกิดจากการใช้คลัทช์อย่างหนักหรือขับรถขึ้นเขาลงเขาบ่อยๆ
- ไม่ควรเปลี่ยนยางที่มีเส้นรอบวงใหญ่กว่าเดิมมากจนเกินไป การเปลี่ยนยางที่มีเส้นรอบวงใหญ่กว่าเดิมมากจนเกินไป จะทำให้อัตราทดของเกียร์และเฟืองท้ายไม่รองรับ ซึ่งจะส่งผลให้ชุดคลัทช์รับภาระหนักขึ้นและสึกหรอเร็วขึ้น
- หมั่นเช็คระดับน้ำมันคลัทช์ น้ำมันคลัทช์ทำหน้าที่หล่อลื่นและระบายความร้อนให้กับชุดคลัทช์ ควรหมั่นเช็คระดับน้ำมันคลัทช์อย่างสม่ำเสมอ หากพบว่าน้ำมันคลัทช์เหลือน้อย ควรเติมให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
- เปลี่ยนถ่ายน้ำมันคลัทช์ตามระยะเวลาที่กำหนด น้ำมันคลัทช์จะเสื่อมสภาพตามการใช้งาน ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันคลัทช์ตามระยะเวลาที่กำหนด โดยปกติจะอยู่ที่ทุกๆ 50,000-100,000 กิโลเมตร
วิธีสังเกตว่าชุดคลัทช์เสื่อมสภาพหรือมีปัญหามีวิธีการอย่างไร
วิธีสังเกตว่าชุดคลัทช์เสื่อมสภาพหรือมีปัญหา มีดังนี้
- อาการลื่น (Clutch Slip) เกิดจากแผ่นคลัทช์สึกหรอหรือไหม้ ทำให้ไม่สามารถถ่ายเทกำลังจากเครื่องยนต์ไปยังระบบส่งกำลังได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้รถมีอาการเร่งไม่ขึ้นหรือเร่งแล้วไม่มีกำลัง
- อาการดัง (Clutch Noise) เกิดจากแผ่นคลัทช์สึกหรอหรือแผ่นกดคลัทช์หลวม ทำให้เกิดเสียงดังเมื่อเหยียบคลัทช์
- อาการติด (Clutch Stick) เกิดจากแผ่นคลัทช์ไหม้หรือแผ่นกดคลัทช์หลวม ทำให้คลัทช์ติดค้างอยู่ในตำแหน่งทำงาน ส่งผลให้รถไม่สามารถเคลื่อนที่ได้
นอกจากนี้ หากพบว่ารถมีอาการผิดปกติอื่นๆ เช่น รถกระตุกขณะเปลี่ยนเกียร์ รถมีอาการสั่นขณะเหยียบคลัทช์ หรือรถมีกลิ่นไหม้จากบริเวณคลัทช์ ก็อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาของชุดคลัทช์เช่นกัน หากพบว่ารถมีอาการผิดปกติใดๆ ข้างต้น ควรรีบนำรถเข้าตรวจเช็คโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการขับขี่
ข้อสรุปเกี่ยวกับชุดคลัทช์รถยนต์
ชุดคลัทช์ประกอบด้วยชิ้นส่วนหลักๆ ดังนี้
- แผ่นคลัทช์ (Clutch Plate) เป็นแผ่นยางหรือผ้าที่ทำหน้าที่ถ่ายเทกำลังจากเครื่องยนต์ไปยังระบบส่งกำลัง
- แผ่นกดคลัทช์ (Pressure Plate) เป็นแผ่นโลหะที่ทำหน้าที่กดแผ่นคลัทช์ให้แนบกับล้อช่วยแรง
- ล้อช่วยแรง (Fly Wheel) เป็นล้อเหล็กที่ติดตั้งอยู่บนเพลาข้อเหวี่ยงของเครื่องยนต์
- สายคลัทช์ (Clutch Cable) เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ส่งแรงจากแป้นคลัทช์ไปยังแผ่นกดคลัทช์ รถยนต์บางรุ่นจะใช้ไฮดรอลิกแทนสายคลัทช์
FAQs คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ ชุดคลัทช์รถยนต์
ชุดคลัทช์เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ตัดต่อกำลังระหว่างเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง โดยอาศัยความฝืดระหว่างแผ่นคลัทช์กับแผ่นกดคลัทช์ และล้อช่วยแรงหรือฟลายวีล
เมื่อผู้ขับขี่เหยียบแป้นคลัทช์ จะทำให้สายคลัทช์หรือไฮดรอลิกดแผ่นกดคลัทช์ให้ห่างออกจากล้อช่วยแรง ส่งผลให้แผ่นคลัทช์หลุดออกจากล้อช่วยแรงและระบบส่งกำลัง ในกรณีนี้ เครื่องยนต์จะตัดขาดจากระบบส่งกำลัง ทำให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างราบรื่น
อาการเสียของชุดคลัทช์ที่พบบ่อย ได้แก่
- คลัทช์ลื่น (Clutch Slip) เกิดจากแผ่นคลัทช์สึกหรอหรือไหม้ ทำให้ไม่สามารถถ่ายเทกำลังจากเครื่องยนต์ไปยังระบบส่งกำลังได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้รถมีอาการเร่งไม่ขึ้นหรือเร่งแล้วไม่มีกำลัง
- คลัทช์ดัง (Clutch Noise) เกิดจากแผ่นคลัทช์สึกหรอหรือแผ่นกดคลัทช์หลวม ทำให้เกิดเสียงดังเมื่อเหยียบคลัทช์
- คลัทช์ติด (Clutch Stick) เกิดจากแผ่นคลัทช์ไหม้หรือแผ่นกดคลัทช์หลวม ทำให้คลัทช์ติดค้างอยู่ในตำแหน่งทำงาน ส่งผลให้รถไม่สามารถเคลื่อนที่ได้
ชุดคลัทช์ควรได้รับการเปลี่ยนทุกๆ 50,000-100,000 กิโลเมตร หรือเมื่อพบว่ามีอาการเสียของชุดคลัทช์
วิธีดูแลรักษาชุดคลัทช์ให้สามารถใช้งานได้นานมากขึ้น มีดังนี้
- หลีกเลี่ยงการเลี้ยงคลัทช์หรือแช่คลัทช์
- ไม่ควรเหยียบคลัทช์โดยไม่จำเป็น
- ไม่ควรพักเท้าที่คลัทช์
- ไม่ควรทำคลัทช์ไหม้
- ไม่ควรเปลี่ยนยางที่มีเส้นรอบวงใหญ่กว่าเดิมมากจนเกินไป
- หมั่นเช็คระดับน้ำมันคลัทช์
- เปลี่ยนถ่ายน้ำมันคลัทช์ตามระยะเวลาที่กำหนด
STM RACING UDON
469 ม.2 ต.บ้านจั่น อ.เมือง จ.อุดรธานี 41000
โทร: 094-027-2572
แถว 4 แยกหนองใหญ่หนองตูมครับ ร้านอยู่ฝั่งเดียวกันกับตลาด ส.นงนุชครับ เลยตลาดมา500เมตร
Facebook : STM Racing Udon
Website : https://stmracingudonthani.com
Line : https://lin.ee/3xcrNhO
Shopee : https://shope.ee/6fCrqz1HHR
Lazada : https://s.lazada.co.th/s.QRZYb?cc