ไฟเตือนบนหน้าปัดรถยนต์ บอกถึงอะไรเรา
ไฟเตือนบนหน้าปัดรถยนต์ สัญญาณไฟเตือนบนหน้าปัดรถยนต์ ไฟเตือนหน้าปัดรถยนต์ ผู้ใช้รถทุกท่านเคยสังเกตและสงสัยกันหรือไม่ว่าพอเริ่มสตาร์ตรถ สัญลักษณ์ไฟเตือนรูปร่างและสีสันต่าง ๆ ที่ขึ้นโชว์บนหน้าปัด ซึ่งต่อมาบางตัวหายไปและบางตัวยังคงโชว์อยู่นั้น มีความหมายว่าอย่างไร และบ่งบอกอะไรได้บ้าง วันนี้เราได้รวบรวม “สัญลักษณ์ไฟเตือน” ที่สำคัญ ๆ และพบเห็นได้บ่อย ๆ มาเป็นข้อมูลเพื่อให้เพื่อน ๆ ได้นำไปใช้กันด้วย
ไฟเตือนหน้าปัดรถยนต์ คืออะไร
ไฟเตือนหน้าปัดรถยนต์ เมื่อเราบิดสวิตช์กุญแจหนึ่งจังหวะ สัญญาณเตือนบนหน้าปัดรถยนต์ ไฟสัญลักษณ์ที่มีสีแตกต่างกันก็จะโชว์ขึ้นมาบนหน้าปัดรถ เพื่อเป็นการสแตนด์บายระบบการทำงานของตัวรถ หลังจากที่เราสตาร์ตเครื่องยนต์ติดแล้ว ชุดไฟสัญลักษณ์ต่าง ๆ ก็จะดับลง แต่ถ้าไฟบางดวงยังติดค้างอยู่ แสดงว่ามีระบบใดระบบหนึ่งในรถกำลังทำงาน หรืออาจจะกำลังเกิดความผิดปกติ ส่วนในกรณีที่กำลังขับรถอยู่นั้น ถ้าเกิดมีไฟสัญลักษณ์โชว์ขึ้นมาโดยที่เราไม่ได้สั่งการหรือใช้งาน แสดงว่ามันกำลังเตือนให้ผู้ขับขี่ทราบว่าระบบของตัวรถส่วนใดส่วนหนึ่งเกิดความผิดปกติขึ้นมา
ไฟเตือนหน้าปัดรถยนต์มีกี่สี
แต่ละสีหมายความว่าอะไรบ้างสีของสัญลักษณ์ไฟเตือนหน้าปัดรถยนต์จะมีกรุ๊ปสีที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน แบ่งออกเป็นเหมือนกับไฟสัญญาณจราจรที่มี 3 สี คือ แดง , เหลือง และเขียวหรือฟ้า ส่วนความหมายของแต่ละสี จะแตกต่างกันไป ดังนี้
ไฟสีเขียว / ไฟสีฟ้า : เมื่อไฟสีนี้ขึ้น เป็นการบ่งบอกถึงสภาพของระบบต่าง ๆ และฟังก์ชันในรถยนต์ยังคงทำงานปกติ สามารถใช้งานได้
ไฟสีเหลือง : เป็นการแจ้งเตือนว่ามีระบบ หรืออุปกรณ์บางชิ้นส่วนเริ่มมีปัญหา เตือนให้ระวังแต่ก็ยังสามารถใช้งานได้อยู่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ เมื่อมีเวลาควรนำรถเข้าไปตรวจสอบที่ศูนย์บริการโดยทันที
ไฟสีแดง : เป็นการแจ้งเตือนว่าระบบในรถมีปัญหาแล้ว และสามารถก่อให้เกิดความเสียหายหรือเสี่ยงอุบัติเหตุได้ง่าย ควรรีบพักเครื่อง หรือรีบตรวจสอบ ซ่อมแซมให้เร็วที่สุด โดยเฉพาะการนำรถไปให้ช่างที่ศูนย์ หรืออู่ตรวจเช็กสภาพ
สัญลักษณ์บนหน้าปัดรถยนต์
แต่ละแบบหมายถึงอะไร สัญลักษณ์ที่ขึ้นโชว์บนหน้าปัดรถของเรานั้นจะแบ่งออกเป็น 3 สีหลัก ๆ และขึ้นอยู่กับรถแต่ละรุ่น รวมถึงรถเก่า รถใหม่ ก็จะแตกต่างกัน วันนี้เราจะมาแบ่งกรุ๊ปให้ดูอย่างชัดเจนว่า แต่ละสี แต่ละแบบ มีความหมายว่าอย่างไรบ้าง
สัญลักษณ์ที่มีไฟเตือน สีเขียว/สีฟ้า
สัญลักษณ์ไฟเตือน สีเขียว/สีฟ้า เป็นสัญญาณที่บอกว่าเรากำลังใช้งานระบบนั้น ๆ อยู่ไม่ได้เป็นสัญญาณเตือนอันตรายแต่อย่างใด ส่วนมากจะเป็นการใช้งานระบบไฟต่าง ๆ เช่น
สัญลักษณ์รูปไฟตัดหมอกด้านหน้า จะติดโชว์ก็ต่อเมื่อเปิดใช้ระบบ โดยจะใช้ระบบนี้เมื่อเริ่มมองไม่เห็นพื้นผิวของถนน หรือมองไม่ชัด เช่น ขณะฝนตกหนักหรือหมอกลงหนา ซึ่งจะช่วยให้เรามองเห็นทางข้างหน้าระยะใกล้ได้ดีขึ้น แต่ไม่ควรเปิดชุดไฟตัดหมอกตลอดเวลา เพราะแสงไฟจะไปแยงตารถที่สวนทางกันมาได้
ไฟเตือนบนหน้าปัดรถยนต์ สีแดง
สัญลักษณ์ไฟสูง จะเป็นแสงสีฟ้า จะติดขึ้นเมื่อเราเปิดระบบ โดยชุดไฟสูงจะใช้ในการขับขี่ตอนกลางคืน ต้องการแสงสว่างแบบมองไกล ๆ ไม่ควรใช้ขณะที่มีรถคันอื่น ๆ อยู่ข้างหน้า รวมถึงขณะที่มีรถสวนทางมา เพราะไฟสูงจะไปรบกวนและแยงตาได้
สัญลักษณ์ที่มีไฟเตือนสีแดงถ้าสัญญาณเตือนสีแดงแสดงขึ้นมาตอนที่เราสตาร์ตเครื่องแล้วดับไปเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้าเมื่อไหร่สัญญาณนี้ยังค้างอยู่ อย่างที่บอกไปแล้วให้รีบนำรถไปเข้าซ่อมทันที เพราะถ้ายังฝืนใช้งานอยู่จะเกิดอันตรายขึ้นได้

สัญลักษณ์เตือนคาดเข็มขัดนิรภัย ในรถยนต์สมัยใหม่จะมีระบบเตือนคาดให้ผู้ใช้รถและผู้โดยสารคาดเข็มขัดนิรภัยก่อนรถวิ่ง ซึ่งจะมีทั้งเตือนด้วยไฟสีแดง-เสียงร้อง

สัญลักษณ์ไฟเตือนถุงลมนิรภัย จะแสดงขึ้น และดับ ทุกครั้งที่สตาร์ตเครื่อง แต่ถ้ารถคันไหนมีไฟสัญลักษณ์เตือนถุงลมนิรภัยโชว์ขึ้นตลอดเวลา แสดงว่า ECU AIR BAG ไม่สามารถทำงานได้ ควรรีบแก้ไขหรือเปลี่ยนใหม่ทันที

สัญลักษณ์เตือนแบตเตอรี่ เมื่อไฟนี้ขึ้นมาบ่งบอกถึงระบบที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้ามีปัญหา อาทิ แบตเตอรี่มีไฟฟ้าไม่พอหรือระบบชาร์จไฟฟ้ามีปัญหา อาทิ สายพานไดชาร์จเสื่อมสภาพหรือขาด, ลวดไหม้, แปลงถ่านเสีย, ไดโอดเสีย เป็นต้น

สัญญาณเตือนไฟเบรกจอดรถ แสดงว่ารถคุณกำลังเจอปัญหาเรื่องระบบเบรกอยู่ให้ตรวจสอบระดับน้ำมันเบรกและผ้าเบรกให้รอบคอบนะครับ ถ้าปล่อยไปนานๆ อาจเกิดเหตุการณ์เบรกแตกได้นะ

สัญญาณไฟเตือนกระโปรงท้ายเปิด แสดงว่ากระโปรงท้ายรถของคุณปิดไม่สนิทหรือเปิดกระโปรงรถทิ้งไว้ ให้ตรวจสอบกระโปรงรถ

สัญลักษณ์เตือนไฟประตูรถเปิด แสดงว่ารถของคุณปิดประตูไม่สนิท ให้ตรวจเช็กให้ครบทุกประตูว่าปิดสนิทหรือไม่

สัญลักษณ์ไฟเตือนระดับน้ำมันเครื่อง ที่ขึ้นเป็นรูปเหยือกน้ำมัน ถ้าสัญลักษณ์นี้ขึ้นโชว์ตอนกำลังขับอยู่ให้จอดรถ และดับเครื่องยนต์ทันที เพราะนั่นแสดงว่าน้ำมันเครื่องในระบบมีปัญหา ไม่สามารถหมุนเวียนได้ในระบบ ซึ่งอาจเกิดจากการรั่วซึม ปั๊มน้ำมันเครื่องพัง อ่างน้ำมันเครื่องทะลุ ซีลรั่ว หรือเซนเซอร์แรงดันเสีย ควรรีบติดต่อช่างเพื่อลากรถไปอู่หรือศูนย์บริการตรวจเช็กทันที หากฝืนขับไปหรือปล่อยไว้นานเครื่องยนต์พังแน่นอน

สัญลักษณ์ไฟเตือนอุณหภูมิที่เป็นรูปเทอร์โมมิเตอร์ ขึ้นระหว่างขับรถอยู่สัญลักษณ์ไฟเตือนอุณหภูมิแสดงขึ้นมาถือว่าเป็นอันตราย เพราะเป็นการเตือนความผิดปกติของระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ ดังนั้นควรนำรถจอดเข้าข้างทางทันที รอให้อุณหภูมิของเครื่องยนต์เย็นลง ซึ่งถ้าสัญลักษณ์ไฟแบบนี้ขึ้นโชว์ อาจเกิดจากพัดลมหม้อน้ำไม่ทำงาน น้ำยาหล่อเย็นขาดหรือรั่ว ถ้ายังฝืนขับต่อหรือปล่อยให้อุณหภูมิสูงต่อไปเรื่อย ๆ เครื่องยนต์จะเกิดความเสียหายอย่างรุนแรง

สัญลักษณ์เตือนไฟเบรก (เครื่องหมายตกใจ) ไฟนี้จะขึ้นเตือนตอนที่เราลืมเอาเบรกมือลง เมื่อกดเบรกมือลงไฟจะหายไป แต่ถ้าหากไฟยังขึ้นค้าง แสดงว่าน้ำมันเบรกอาจจะบกพร่องจนมีแรงดันไม่เพียงพอ ให้ผู้ใช้รถทำการเช็กปริมาณน้ำมันเบรก แล้วเติมให้อยู่ในระดับที่กำหนด แต่ถ้าไฟยังขึ้นอยู่ ให้นำรถเข้าศูนย์ทันที เนื่องจากอาจจะมีระบบจ่ายน้ำมันเบรกรั่วก็เป็นได้
ไฟเตือนบนหน้าปัดรถยนต์ สีเหลือง
สัญลักษณ์เตือนไฟสีเหลืองสัญลักษณ์เตือนสีเหลือง จะเป็นสัญญาณเตือนสมชื่อ เพราะรถเรายังสามารถขับได้อยู่ เพียงแค่เตรียมจัดตารางเอารถเข้าตรวจสอบเพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยของรถ

สัญญาณไฟเตือนไฟตัดหมอกด้านหลัง ถ้ามีสัญญาณเตือนขึ้นแสดงว่าเรากำลังใช้งานไฟตัดหมอกด้านหลังอยู่นะคะ ระบบไฟปกติอยู่ค่ะ

สัญลักษณ์เตือนน้ำมัน แสดงว่าน้ำมันกำลังจะหมด แต่ยังสามารถขับต่อไปได้อีกสักระยะ ขึ้นอยู่ตามขนาดของรถยนต์ แต่ทางที่ดีควรรีบหาปั๊มเติม เพราะถ้าเผลอลืมรถอาจจะดับเพราะน้ำมันหมดถัง ที่สำคัญอาจยังจะกระทบไปถึงปั๊มติ๊ก หรือตัวปั๊มที่ทำหน้าที่ในการดูดน้ำมันจากถังส่งไปเลี้ยงเครื่องยนต์เสียหายได้

สัญลักษณ์เตือนระบบควบคุมเครื่องยนต์สีเหลือง ถ้าขึ้นโชว์แสดงว่าเครื่องยนต์รถน่าจะเกิดปัญหาในส่วนของระบบเครื่องยนต์ เช่น ECU, การจุดระเบิด, ค่าออกซิเจนผิดปกติ, อายุสายพานเกินระยะกำหนด ฯลฯ ควรนำรถเข้าตรวจสอบหาสาเหตุที่ศูนย์บริการทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์เสียหายไปมากกว่าเดิม

สัญญาณเตือนระดับน้ำมันเครื่องต่ำ สมควรต้องไปเข้ารับการดูแลจากช่างเพื่อเติมน้ำมันเครื่องก่อนที่เครื่องยนต์รถคุณจะไหม้เอาได้ค่ะ

สัญญาณเตือนตรวจเช็คน้ำมันเครื่อง ด้วยน้ำมันเครื่องนั้นมีอายุการใช้งานนับจากวันที่ผลิต และเมื่อครบกำหนดต้องมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเพื่อป้องกันเครื่องพัง หรือในรถบางคันก้านวัดน้ำมันเครื่องอาจจะมีปัญหา หรือเกิดอาการน้ำมันเครื่องขาดขึ้นได้

สัญลักษณ์ไฟเตือนระบบควบคุมการทรงตัว หรือ ระบบป้องกันการลื่นไถล จะปรากฏขึ้นเมื่อเซนเซอร์พบว่าตัวรถสูญเสียการควบคุมบนถนนที่มีพื้นผิวเปียกลื่น หรือผู้ขับขี่กดปิดระบบนี้ ซึ่งระบบดังกล่าวจะเปิดเองโดยอัตโนมัติเมื่อสตาร์ตรถ แนะนำให้เปิดระบบนี้ไว้ตลอดเวลาเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่

สัญญาณเตือนการปิดระบบทรงตัวของรถ ปกติแล้วเป็นระบบอัตโนมัติและในรุ่น TOP สามารถเปิด-ปิดการทำงานของระบบได้ด้วยเมื่อเรามีการปรับแต่งล้อใหม่หรือการตั้งศูนย์ใหม่เราก็เลือก OFF ก่อนได้

สัญญาณเตือนระบบ ABS คือระบบป้องกันการล็อกล้อของเบรก ถ้าสัญญาณไฟแสดงขึ้นมาแสดงว่า ABS ของรถเราน่าจะมีปัญหา ไปตรวจสอบระบบเบรกโดยด่วน

สัญญาณเตือนเบรกหรือเบรกมือ แสดงว่าเรากำลังใช้เบรกมืออยู่หรือถ้าตรวจสอบแล้วว่าเบรกมือไม่ได้ใช้งาน ควรไปตรวจสอบระบบเบรกโดยด่วนเพื่อความปลอดภัย

สัญญาณเตือนระบบตรวจสอบพวงมาลัยพาวเวอร์ หรือ EPS ปกติแล้วไฟจะแสดงขึ้นมาก่อนสตาร์ทเครื่องและดับไปเมื่อเราสตาร์ทเครื่องติดแล้ว แต่ถ้าตาร์ทแล้วไฟยังขึ้นอยู่ให้ตรวจสอบระบบไฟที่ควบคุมการทำงานของพวงมาลัยนะคะ

สัญญาณเตือนระบบเบรกจอดรถ ปกติแล้วรถเกียร์ออโต้ถ้าจอดนานเราจะเข้าเกียร์ที่ P ถ้าไฟแสดงขึ้นมาให้เราเอารถเข้าศูนย์เพื่อตรวจสอบระบบเบรกตอนจอดรถโดยด่วน

สัญญาณเตือนเหยียบเบรก มักจะแสดงขึ้นในรถรุ่นใหม่ที่เราต้องเหยียบเบรกก่อนถึงจะสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ รถรุ่นใหม่มันฉลาดขึ้นเรื่อยๆ นะคะ

สัญญาณเตือนเอารถเข้าตรวจสอบ เพื่อให้ควรจะเอารถเข้าไปตรวจสอบแบบเต็มรูปแบบได้แล้ว รถมันกำลังส่งสัญญาณเตือนเราแบบขั้นสุดแล้วค่ะ

สัญญาณใช้งานระบบช่วยจอดรถ ในรถยนต์รุ่นใหม่จะมีระบบอัจฉริยะที่ช่วยให้เราจอดรถได้ง่ายมากขึ้นเพียงแค่เราเลือกไปที่การทำงานนั้นเท่านั้นเอง

สัญญาณใช้งานระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เมื่อเราต้องการเปลี่ยนใช้งานการขับเคลื่อนเป็นแบบ 4 ล้อสัญญาณนี้จะแสดงขึ้นมา
สัญญาณไฟเตือน สีเขียว / น้ำเงิน
สัญญาณสุดท้ายเป็นการบอกว่าเรากำลังใช้งานระบบนั้นๆ อยู่ไม่ได้เป็นสัญญาณเตือนอันตรายแต่อย่างใดค่ะ ส่วนมากแล้วจะเป็นการใช้งานระบบไฟต่างๆ เช่น

สัญญาณใช้งานระบบไฟสปอร์ทไลท์ / ไฟตัดหมอก โดยปกติแล้วเมื่อเราต้องขับขี่ในเวลากลางคืน หรือช่วงเวลาที่มืดค่ะ ส่วนในบางรุ่นอาจจะแยกสวิชท์สำหรับไฟตัดหมอกด้านหน้าด้วย

สัญญาณชาร์ตพลังงานเมื่อขับรถลงเนิน (ในรถยนต์ไฮบริด) โดยปกติแล้วรถแบบผสมระหว่างการใช้น้ำมันและไฟฟ้าที่เราเรียกว่าไฮบริตนั้น เวลาที่เราขับลงจากที่สูงรถจะเก็บพลังงานที่เกิดจากเคลื่อนที่ลงสู่ที่ต่ำไว้ในแบตเตอรี่โดยที่เราไม่ต้องเหยียบคันเร่งซึ่งก็คือการชาร์ทไฟเข้าเก็บไว้ที่แบตเตอรี่นั่นเองค่ะ

สัญญาณใช้งานระบบไฟหรี่ ในการขับรถบางครั้งที่เราต้องการแค่มองเห็นระบบการทำงานในห้องโดยสารเราก็แค่เปิดใช้ไฟหรี่ได้ค่ะ

สัญญาณใช้งานระบบไฟสูง เมื่อเราต้องขับรถทางไกลในเวลากลางคืนและต้องการแสงสว่างแบบมองไกลๆ เราก็จะเห็นสัญลักษณ์นี้ค่ะ
สุดท้ายแล้วรถแต่ละยี่ห้อ ในแต่ละรุ่นก็ย่อมมีความแตกต่างกันบ้าง น้อง STM เลยรวมมิตรทุกอย่างมาให้ค่ะ เผื่อรถเราดันมีสัญญาณไฟแปลก ๆ แสดงขึ้นมาทั้งหมดนี้เป็นเพียงบางส่วนของสัญลักษณ์ไฟเตือน ที่แสดงอยู่บนหน้าปัดรถยนต์ของเรา ซึ่งจริง ๆ แล้วยังมีอีกมากมาย แตกต่างกันไปแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่นของตัวรถ ดังนั้น ผู้ขับขี่ควรศึกษาและเรียนรู้สัญญาณเตือนต่าง ๆ บนหน้าปัด จากคู่มือประจำรถของคุณ เพื่อจะได้รู้และรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที และมีรถไว้ใช้งานได้อย่างยาวนาน ปลอดภัย
STM RACING UDON
469 ม.2 ต.บ้านจั่น อ.เมือง จ.อุดรธานี 41000
โทร: 094-027-2572
แถว 4 แยกหนองใหญ่หนองตูมครับ ร้านอยู่ฝั่งเดียวกันกับตลาด ส.นงนุชครับ เลยตลาดมา500เมตร
Facebook : STM Racing Udon
Website : https://stmracingudonthani.com
Line : https://lin.ee/3xcrNhO
Shopee : https://shope.ee/6fCrqz1HHR
Lazada : https://s.lazada.co.th/s.QRZYb?cc